วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

5 เรื่องสัมผัสรู้ เกม แมนฯยูฯ พลิกเชือด เชลซี

 

5 ประเด็นแตะรู้ เกม แมนฯยูฯ แพลงเชือด เชลซี

ทำเกิดผลจนได้สำหรับสมาชิกของโฆเซ มูรินโญ หลังจากพวกเขาถูกทีมเยือนบุกมานำไปก่อนในครึ่งแรก 1-0 การที่พวกเขาเปลี่ยนมาชนะเชลซีได้ 2-1 ทำให้พวกเขาสมรรถแซงลิเวอร์พูลขึ้นไปอยู่อนุกรม 2 ได้อีกครั้งด้วย

ไงก็ตาม นี่ไม่ใช่เพียงสาระสำคัญเดียวที่เกิดขึ้นในเกมบิ๊กแมตช์สุดมันวันอาทิตย์ และ 5 ข้อต่อไปนี้ก็คือ 5 เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นเกมดังกล่าวข้างต้นครับผม

5. วิลเลียน ขโมยซีน



แม้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นขั้วเอาชนะไปได้ 2-1 ในกลับคืนที่ผ่านมา แต่ไม่ยอมรับไม่ได้เลยว่าการโชว์ฟอร์มของวิลเลียนในเกมนี้เอาพิชิตปีกคนอื่น ๆ ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอ็องโตนี มาร์กเซียล, อเล็กซิส ซานเชซ, เปโดร โรดริเกซ ไม่ใช่หรือแม้แต่เอเด็น อาซาร์

ประตูขึ้นนำในเกมนี้เริ่มมาจากการตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษ เพรงเป็นวิลเลียนเองนี่แหละที่ทำบอลขึ้นมาในแดนแมนฯ ยู เล่นกัน 2 คนกับเอเด็น อาซาร์จนลุ่ยกับดักล้ำหน้ากับกลายเป็นประตูในที่สุด

การเล่นอย่างหลักแหลมและความคมในการทำประตูของวิลเลียนไม่ใช่เปลาะบังเอิญ โดยเท่านั้นแฟนบอลบาร์ซาน่าจะรู้ดีที่สุด

4. ลูกากู ยิงทีม Top 6 ได้ซะที

 



ชายผู้มีค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์ทาบสัปดาห์ต้องเจอแรงกดดันมากในระยะหลัง เกี่ยวมาจากสถิติอันย่ำแย่บางอย่างของเจ้าตัว

นั่นคือเขาไม่เคยยิงทีม Top 6 ได้เลย

เขาควรติเตียนว่าไม่ใช่ของจริง ยิงได้ถึงกระนั้นทีมที่อ่อนกว่า พร้อมกับอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ประตูกับเชลซีในวันนี้ไม่ใช่เป็นแค่แค่การลบสถิติออกเท่านั้น แม้กระนั้นยังเป็นการหยิบยกให้เห็นด้วยว่าเขามีสมาธิหน้าปากประตูมากขนาดไหน และคงไม่นานเกินรอที่เขาจะยิงทีม Top 6 ได้อีกครั้ง

3. ลินการ์ด ยังมีของดีซ่อนอยู่อีกเยอะ



วัยรุ่นผู้เป็นผลิตผลของอคาเดมีผีแดงผู้นี้เคยมีช่วงเวลาอันแถวหน้าอยู่ระยะหนึ่ง หลังซัดไป 6 ประตูจาก 9 นัดที่ลงเล่น ก่อนจะเริ่มจางหายไปในที่สุด

ซึ่งวิกฤติของลินการ์ดก็ดูจะย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่ออเล็กซิส ซานเชซเดินทางมาถึงโอลด์แทร็ฟฟอร์ด เพราะแม้อเล็กซิสจะไม่ได้เล่นทับอัตราเขาโดยตรง แต่มันหมายความว่านักเตะที่มีฝีมือไล่เลี่ยกันด้วยกันเล่นตำแหน่งใกล้เคียงกันต้องมีคู่แข่งมากขึ้น แรชฟอร์ดเอย มาร์กซิยาลเอย มาตาเอย นักฟุตบอลเหล่านี้แหละที่จะมาทับชั้นเขา

แบบก็ตาม วันนี้เป็นวันที่ลินการ์ดแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขายังมีดีซ่อนอยู่อีก การสอดขึ้นมาโขกบอลโล่ง ๆ ทำให้เห็นความสามารถทัศน์ของการเป็นตัวทำประตูของเขา แถมการโหม่งก็ยังควบคุมทิศทางพร้อมกับแรงได้ดีอีกด้วย ต้องชมเขาล่ะ

2. แมนฯ ยูเริ่มหายใจได้ทั่วท้องบ้างแล้ว

 



ครั้งก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้น มีหลายฝ่ายมองว่าแมนฯ ยู มีสิทธิ์ร่วงจากพื้นที่ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก

ก็จะไม่ให้มองได้อย่างไร ก่อนหน้านี้พวกเขาแพ้ทั้งสเปอร์สพร้อมทั้งนิวคาสเซิล กลายร่างละที่เป็นทีมลุ้นแชมป์อยู่ดี ๆ ตอนนี้เริ่มจะเป็นทีมลุ้นโควตาแชมเปี้ยนส์ลีกมากขึ้นเรื่อย ๆ และหากพวกเขาแพ้เชลซีอีก พวกเขาจะอยู่อันดับ 3 มีแต้มเท่าอันดับ 4 และนำอันดับ 5 เพียง 1 คะแนนเท่านั้น

อัปราชัยในนัดนี้ส่งผลให้พวกเขาทิ้งเชลซีออกไปเป็น 6 คะแนน พร้อมด้วยแม้ว่าพวกเขามีคิวแข้งกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถ้าว่าเชลซีเองก็ต้องเจอกับซิตี้และลิเวอร์พูลเช่นกัน เพิ่มให้สิงห์บลูยังต้องไปเจอสเปอร์สอีกด้วย ตอนนี้เราจึงกล้าพูดได้เลยว่างานของเชลซียังหนักกว่าเยอะ

1. สัญญาณของมิตรภาพ

 



อันโตนิโอ คอนเตกับโฆเซ มูรินโญเริ่มต่อสู้คารมกันมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วพร้อมทั้งยิ่งมาหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ในฤดูกาลนี้ นั่นทำให้โอกาสที่ทั้งสองคนจะจับมือกันในสัปดาห์นี้ดูเป็นไปไม่ได้เลย

โดยเฉพาะเมื่อมูรินโญเดินไปจับมือกับนักเตะเชลซีทุกคนในอุโมงค์ก่อนเกมเริ่ม แต่ยังไม่ยอมจับมือกับคอนเต้ ในขณะที่คอนเต้เองก็พยายามจะเลี่ยงมูรินโญอยู่ตลอดเวลา

แต่พวกเขาก็จับมือกันจนได้จริง ๆ ถึงจะแป๊บเดียวก็เถอะ คงทำให้อัฟราม แกรนท์สบายใจขึ้นมาหน่อยละนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น