วิเคราะห์บอล:หลังพอกันทีการรบพรีเมียร์ลีกคู่บิ๊กแมตซ์ระหว่าง ปืน-ภูตผี

ฝ่ายอาร์เซน่อลพ่ายพ่ายแพ้แมนยูคาบ้าน

หลังจากที่กลุ่มอาร์เซนอล ที่เป็นฝ่าย ปลดให้โอกาสที่มีมากกว่า กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลุดลอยไปหมด ด้วยกันสุดท้ายจึงต้องกลายเป็นฝ่ายพ่ายปราชัยในเกมศึกพรีเมียร์ลีกคู่บิ๊กแมตช์จนกระทั่งคืนวันเสาร์ที่ทะลวงมา

กับก็แน่นอนว่า เหตุผลส่วนหนึ่งต้องให้เครดิตกับความหนึบของ ดาวิด เด เคอา ที่ช่วยเซฟชีวิตให้ เหล่าผีแดง หลายต่อหลายครั้ง แต่การที่ เหล่าปืนใหญ่ ไม่คมพอจักจบสกอร์ได้เองนี่แหละ ทำให้กรุ๊ปพลาดโอกาสจะทำคะแนนขึ้นติดมาติดท็อปโฟร์

ซึ่งนอกจาก ทีมอาร์เซนอล จะทำพลาดทำแต้มหลุดมือไปจนหมดในเกมนี้แล้ว นักเตะที่พลาดโอกาสสำคัญไปในเกมนี้ก็คือ แดนนี่ เวลเบ๊ค

และโอกาสแรกก็คือการจักได้หักหน้า หลุยส์ ฟาน ฮัล กุนซือคนใหม่ของปิศาจแดง ซึ่งสาธยายว่าเขาดีพอจะเป็นพางแค่ตัวสำรองใน ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เท่านั้น กับนั่นเป็นเหตุผลให้เวลเบ๊คตกลงใจเคลื่อนเข้าสู่ถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมก่อนเส้นตายการปิดตลาดนักเตะในช่วงซัมเมอร์

โดยที่แฟนผีหลายคนบ่นเสียดายที่กองหน้าลูกหม้อรายนี้ต้องอำลาฝ่ายไป ภายหลังพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาจนกลายเป็นสมาชิกประจำในกรุ๊ปชุดใหญ่ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย แถมยังไปไกลถึงขั้นเป็นตัวสุทธิในกลุ่มชาติอังกฤษอีกด้วย

พร้อมทั้งยิ่งฤดูกาลนี้ตัวของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่เป็นอดีตเด็กปืน ชักจะโหมโรงทำฟอร์มหล่นหาย เล่นไม่ได้ดั่งใจกองเชียร์ฝ่ายผี ส่วนกัปตันฝ่ายคนเก่งอย่าง เวย์น รูนี่ย์ ก็ขยันจนลืมบทบาท

ซึ่งชอบถอยไปเล่นต่ำเกินไปจนไม่ค่อยมีโอกาสยิง แถม ราดาเมล ฟัลเกา ที่ถูกกู้ยืมตัวมาด้วยค่าใช้จ่ายก้อนโต ก็มาแบบเดี้ยง ๆ ไม่เต็มร้อย

มิหนำซ้ำ ตัวของเวลเบ๊ค นั้นยังระเบิดฟอร์มได้อย่างโดดเด่นนับตั้งแต่เปลี่ยนสีเสื้อ เท่าที่ทำไป 5 ประตูในการลงเล่นให้ เหล่าอาร์เซนอล 12 นัดในทุกรายการ ด้วยกันซัดไปอีก 5 เม็ดใน 4 เกมกับฟุตบอลกรุ๊ปชาติ

กับถ้าเกมที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมนัดนี้ เขายิงได้ซักประตู เป็นประตูตีเสมอไม่ใช่หรือประตูชัยให้ ฝ่ายอาร์เซนอล ได้ ก็จะเป็นการแสดงให้ หมู่แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เห็นว่าเขาดีเกินพอ แต่ เวลเบ๊ค ก็พลาดโอกาสนั้นไปอย่างน่าเสียดาย

พร้อมด้วยปางนักเตะอย่าง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่ได้ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกม พร้อมกับทำประตูตีไข่แตกให้ปืนใหญ่ได้ในช่วงทดเจ็บ

ซึ่งมันก็ย่อมหมายความว่าเวลเบ๊คพลาดโอกาสที่จะตอกย้ำสถานภาพของเขา ในฐานะตัวเลือกหลักในตำแหน่งศูนย์หน้าไปด้วยก็ได้

ด้วยเหตุผลที่ว่าถ้า เวลเบ๊ค นั้นแสดงให้เห็นว่าเขาดีพอที่จักทำหน้าที่นี้ได้ แม้ว่า ชิรูด์ จะฟิตสมบูรณ์กลับมา ก็คงไม่ง่ายที่จักแย่งตำแหน่งกลับไปครองได้ แต่ปางผลงานของเขาพร้อมทั้งคณะไม่ดีพอ การเปลี่ยนแปลงก็ต้องเกิดขึ้นแน่

ด้วยกันเวลเบ๊ค ก็ต้องรับสั่งก่อนเกมนี้ว่าเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาตกลงใจย้ายก็เพราะว่าถูก กรุ๊ปแมนฯ ยูไนเต็ด จับไปเล่นริมเส้นเป็นส่วนใหญ่

โดยที่เป็นตำแหน่งที่เขารู้สึกว่าทำให้ตัวเองใช้ศักยภาพได้อย่างไม่เต็มที่

พางแต่ถึงปัจจุบันนี้เขาอาจจักต้องกลับไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นอีกครั้ง คือโอกาสจะได้ลงเล่นเป็นศูนย์หน้าคงจะน้อยลงปาง ชิรูด์ กลับมา และทางเลือกระฉ่อนกที่เหโจษอยู่การถูกจับไปยืนริมเส้นเหรอไม่ก็นั่งอยู่ข้างสนาม

โค้ชฟานกัลยัน3-5-2นั้นพากรุ๊ปผีบุกชนะปืนได้

โค้ชหลุยส์ ฟาน กัล นั้นวิเคราะห์บอลสดุดีแท็คติกที่วางเอาไว้ด้วยระบบ 3-5-2 หลังจากที่เคยพังไม่เป็นท่ามาแล้ว รื้อกลับมาใช้แล้วเอาชนะ พวกปืนใหญ่ 2-1 ถึงถิ่น เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม

เพราะภายหลังที่ หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สุดดีใจที่เชี่ยวชาญพาระบบ 3-5-2 ของตนบุกไปเอาชนะ คณะอาร์เซน่อล ถึงถิ่น เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ได้ 2-1 ครั้งวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายนที่ลอดมา พร้อมยกว่าเป็นชัยชนะที่สุดยอดทั้งๆ ที่มีตัวผู้เล่นบาดเจ็บมากเหเล่าลือเกิน

ซึ่งเกมนี้ ทัพ พวกปีศาจแดง ได้หันกลับมาใช้แผนการเล่นระบบ 3-5-2 อีกครั้ง โดยได้ส่งทั้ง

1. ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์
2. คริส สมอลลิ่ง 
3. แพดดี้ แม็คแนร์ 

ให้ลงสนามพร้อมกัน เพราะว่ามีวิงแบ็กขวาเป็น

1. อันโตนิโอ วาเลนเซีย 

ซ้ายคือ

1. ลุค ชอว์ พร้อมด้วยได้เปลี่ยนตัว แอชลี่ย์ ยัง ลงมาแทน 

ทั้งยังใช้แท็คติกตั้งรับพร้อมกับโต้กลับ ซึ่งส่งผลให้พวกไม่เสียประตูจนมาได้ลูกยิงนำ 1-0 จาก เคียแรน กิ๊บบ์ส ทำเข้าประตูตัวเอง ในนาทีที่ 56 ก่อนจะมาได้ลูกสวนกลับของ เวย์น รูนี่ย์ ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย นำเป็น 2-0 พร้อมด้วยเก็บ 3 แต้มไปในท้ายที่สุด

พร้อมกับกุนซือชาวดัชต์ ยังได้กล่าวว่า มันเป็นชัยชนะที่สวยงามมาก เรามีนักเตะเจ็บมากมาย แต่เราเชี่ยวชาญเอาชนะเกมที่ยากในการออกไปเยือนได้ในเวลาที่ดีมาก ทีมอาร์เซน่อล มีทีมบุกที่ดี พร้อมทั้งผมรู้ถึงความได้เปรียบตรงนั้น และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงใช้แผนสวนกลับ พร้อมทั้งใช้เซ็นเตอร์ 3 คน ซึ่งทันทีผมเป็นได้หัวเราะเยาะได้แล้วกับการที่เกมออกมาแตกต่างจากที่พวกคุณคาดเอาไว้

เขายังได้กล่าวต่ออีกว่า นี่เป็นชัยชนะนอกบ้านเกมแรกของเรา พร้อมกับนักเตะทุกๆ คนดีใจกันมาก แต่มันเป็นแค่แค่ชัยชนะนัดเดียว ซึ่งต่อจากนี้เราต้องทำให้แน่ใจว่าเราจะชนะในการเล่นที่บ้านอีก 2 นัดต่อจากนี้ เราถึงจะศักยพูดได้ว่าเรามีสปิริต ด้วยกันเราศักยมองขึ้นไปที่หัวตารางได้ นายใหญ่วัย 63 ปี ร่ายยาว

เพราะว่าที่ พวกปีศาจแดง ได้เก็บชัยชนะเกมแรกในการเล่นเป็นคณะเยือนฤดูกาลนี้ ด้วยกันยังเป็นชัยชนะหนแรก ในการใช้ระบบ 3-5-2 อีกด้วย ซึ่งส่งผลให้พวกเขาขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 4 ของตารางเรียบร้อยแล้ว จากผลบอล ชนะ 5 เสมอ 4 จำนน 3 มี 19 แต้ม ตามหลังอันดับ 3 อย่าง ฝ่ายแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองอยู่ 5 คะแนนด้วยกัน

ผีแดงบุกเฉือนกรุ๊ปปืน 2-1 สุดมันส์

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

• แข่งวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2557
• เหล่าอาร์เซน่อล 1-2 พวกแมนฯ ยูไนเต็ด
• แข่งที่สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
• กรรมการผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน
• ถ่ายทอดสด http://footballclubpza.blogspot.com/

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลปี 2014 - 2015 ประจำวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2557 เนื่องด้วยคู่เอกเป็นเกมที่สนาม ถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ระหว่าง กลุ่มอาร์เซน่อล จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ กลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เปิดฉากเกมในครึ่งแรก

ในนาทีที่ 5 ฝั่งเจ้าถิ่น หมู่ปืนใหญ่ ได้ทักทายก่อน จากโอกาสหลุดเข้าไปยิงของ แดนนี่ เวลเบ็ค แต่ แพ็ดดี้ แม็คแนร์ วิ่งตามมาบล็อคได้ทัน

นาทีที่ 13 ฝั่งเจ้าถิ่น นั้นเกือบได้ประตูนำ จากจังหวะที่ เด เคอา เปิดบอลไม่ดี ผู้เล่นอาร์เซน่อลเก็บบอลได้ ก่อนมาถึง แจ็ค วิลเชียร์ ที่หลุดเข้าเขตโทษ แต่ยิงไปติดเซฟ เด เคอา อย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 20 เวย์น รูนี่ย์ ได้โอกาสปั่นพรีคิกด้วยขวานอกกรอบ แต่บอลเหินข้ามคานออกไปก่ายกอง

ในนาทีที่ 33 ทัพ กรุ๊ปปืนใหญ่ ก็ได้บุกมากกว่า พร้อมทั้งได้ลุ้นจากจังหวะที่ อเล็กซิส ซานเชซ ลากบอลจากทางซ้ายตัดเข้ากลาง ก่อนซัดด้วยขวาบอลพุ่งเรียด แต่ยังไม่ลอดมือ เด เคอา

เพราะที่ในนาทีที่ 35 ฝ่ายเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด มีลุ้นใกล้เคียงที่สุด จาก ดิ มาเรีย ที่พาบอลจี้เข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนซัดด้วยซ้ายบอลโค้งไม่พอ หลุดเสาไกลออกไป

นาทีที่ 38 ฝ่ายแมนฯ ยูไนเต็ด นั้นมีลุ้นออกนำ อังเคล ดิ มาเรีย เลี้ยงเข้าหากรอบโทษ ก่อนแผงหลังเจ้าถิ่นจะสกัดบอลมาเข้าทางปืน เวย์น รูนี่ย์ ได้ซัดเหน่งๆ แต่ไปติด คาลั่ม แชมเบอร์ส ออกหลังไป

ในช่วงท้ายเกมที่เหละบือ ทั้งสองพวกก็ไม่อาจทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรกยังเสมออยู่ผลบอล 0-0

ขึ้นต้นเกมมาในครึ่งหลัง

นาทีที่ 49 กรุ๊ปอาร์เซน่อล นั้นได้ลุ้นจากสกอร์จาก เวลเบ็ค ที่หลุดเข้ากรอบโทษฝั่งซ้าย แต่ยิงไปตรงตัว เด เคอา อย่างน่าเสียดาย

ซึ่งในนาทีที่  56 ฝั่งหมู่เยือน แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูแบบโชคช่วย จากจังหวะ วอยเชียค เชสนี่ ออกมาปัดบอลแต่ไปชนกับ คีแรน กิ๊บบ์ส ทำให้บอลมาถึง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ตามซ้ำด้วยขวานอกกรอบ บอลไปแฉลบ กิ๊บบ์ส ที่พยายามลุกขึ้นมาสกัด ก่อนเปลี่ยนทางเข้าประตู ทำให้ หมู่แมนฯ ยูไนเต็ด บุกนำ พวกอาร์เซน่อล 1-0

เพราะภายหลังที่เสียประตู ฝั่งเจ้าถิ่น นั้นได้บุกหนักด้วยกันได้ลุ้น จากลูกโดดโขกเต็มๆของ อเล็กซิส ซานเชซ ในนาทีที่ 63 แต่ เด เคอา ยังไวล้มตัวรับเข้าซอง

นาทีที่ 68 แดนนี่ เวลเบ็ค โหม่งชงย้อนหลังให้ กาซอร์ล่า วิ่งมากดด้วยขวา แต่ก็ไปตรงตัว เด เคอา รับไว้ได้

พร้อมทั้งในนาทีที่ 85 แฟน กลุ่มปีศาจแดง ก็ได้เฮกันลั่นสนาม เท่าที่มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากเกมสวนกลับบอลมาถึง ดิ มาเรีย ก่อนไหลใส่พานให้ เวย์น รูนี่ย์ พาบอลเข้าไปชิฟข้ามตัว ดาเมียน มาร์ติเนซ เข้าประตูอย่างเหนือชั้น

เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ฝั่งเหล่าเยือน น่าจะได้ลูกที่สาม จากจังหวะโต้กลับ อังเคล ดิ มาเรีย พาบอลหลุดเดียวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ ดาเมียน มาร์ติเนซ แต่เจ้าตัวชิฟบอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ในนาทีถัดมา คณะปืนใหญ่ อาร์เซน่อล มาได้ประตูตีไข่แตก ไล่มาเป็น 1-2 จากลูกยิงด้วยซ้ายของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ แม้ เด เคอา จักปัดได้ด้วยปลายมือก็ตาม

และอีกไม่นานผู้ตัดสินอย่าง ไมค์ ดีน ก็เป่าหมดเวลา ทำให้ กลุ่มแมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาชนะ  พวกอาร์เซน่อล 2-1 พร้อมด้วยเป็นโปรแกรมบอลชัยชนะนอกบ้านนัดแรกของ พวกปีศาจแดง ในฤดูกาลนี้


มาดูรายการ 11 ผู้เล่นแรกที่ลงสนามของทั้งสองฝ่าย

คณะอาร์เซน่อล 4-2-3-1 :

1. วอยเชียค เชสนี่ 
2. คาลั่ม แชมเบอร์ส
3. แพร์ แมร์เตซัคเกอร์
4. นาโช่ มอนเรอัล
5. คีแรน กิ๊บบ์ส 
6. อารอน แรมซี่ย์
7. มิเคล อาร์เตต้า
8. อเล็กซิส ซานเชซ
9. แจ็ค วิลสนับสนุน
10. อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน 
11. แดนนี่ เวลเบ็ค

คณะแมนฯ ยูไนเต็ด 3-4-2-1 :

1. ดาบิด เด เคอา 
2. คริส สมอลลิง
3. แพ็ดดี้ แม็คแนร์
4. ไทเลอร์ แบล็กเก็ตต์ 
5. อันโตนิโอ วาเลนเซีย
6. ไมเคิ่ล คาร์ริค
7. มารูยาน เฟลไลนี่
8. ลุค ชอว์
9. อังเคล ดิ มาเรีย 
10. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 
11. เวย์น รูนี่ย์